คนส่วนใหญ่ล้วนอยากกินอาหารเพื่อสุขภาพด้วยกันทั้งนั้น แต่บางครั้งก็ดูเหมือนว่าเมนูสุขภาพหลายอย่างมาพร้อมค่าใช้จ่ายที่สูงมากขึ้น
เคล็ดลับ 10 ข้อตามด้านล่างนี้จะเสนอแนะวิธีเซฟเงินในกระเป๋าของคุณสำหรับการกินอาหารเพื่อสุขภาพ
เคล็ดลับที่ 1
เลือกซื้ออาหารหรือวัตถุดิบตามลิสต์ที่คุณจดไว้เท่านั้น
ไม่ควรซื้อหรือกินอาหารตามใจปากของตัวเอง นอกจากทำให้คุณเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นแล้วอาหารเหล่านี้มักมีผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม อนาคตคุณอาจต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นด้วย
เคล็ดลับที่ 2
เลิกซื้อเลิกกินอาหารฟาสฟู๊ดหรืออาหารขยะทันที เคล็ดลับนี้ก็ช่วยเซฟเงินคุณได้มากทีเดียว
หากกินอาหารจานด่วนหรือฟาสฟู๊ดมากเท่าไร ผลเสียต่อสุขภาพก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย การเลือกกินอย่างชาญฉลาดหรือเลือกกินแต่อาหารเพื่อสุขภาพจะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้ทั้งค่าอาหารและค่ารักษาพยาบาล
ดังนั้นควรเลือกซื้ออาหารคุณภาพสูงรสชาติดี ไม่ใช่แค่ดีกว่าอาหารฟาสตฟู๊ดเท่านั้น การกินอาหารเพื่อสุขภาพดียังช่วยลดคความเสี่ยงในการเจ็บป่วยได้อีกด้วย เพราะร่างกายคุณคือทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุดบนโลกนี้
เคล็ดลับที่ 3
เลือกซื้อเนื้อสัตว์ที่มีราคาถูกกว่า ตัวอย่างเช่นเนื้อสันนอกกับเนื้อสันในของเนื้อวัวมีราคาต่างกันมาก แต่ทางด้านโภชนาการแล้วให้คุณค่าเหมือนกัน
นั่นคือ คุณควรเลือกซื้อวัตถุดิบที่มีราคาถูกกว่าแต่ให้สารอาหารเหมือนกัน ถ้าหากช่วงนั้นราคาเนื้อวัวแพงมากก็ควรเปลี่ยนไปซื้อเนื้อสัตว์อื่นๆ แทน เช่น เนื้อไก่ซึ่งมีราคาถูกมาก
เคล็ดลับที่ 4
ซื้อสินค้าโดยตรงจากกลุ่มเกษตรออแกนิค ปัจจุบันสินค้าเกษตรแบบออแกนิคมีหลายช่องทางให้เลือกซื้อได้ ราคาอาจแพงกว่าสินค้าเกษตรทั่วแต่หากเปรียบเทียบความคุ้มค่าด้านสุขภาพแล้วคุ้มเงินทุกบาทแน่นอน
ปัจจุบันคุณสามารถติดต่อหรือสั่งซื้อสินค้าจากกลุ่มสินค้าเกษตรออแกนิคได้โดยตรง ผ่านช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์แล้วสินค้าออแกนิคก็จะส่งมาถึงหน้าบ้านคุณเลย
เคล็บลับที่ 5
ทำอาหารจากวัตถุดิบที่เหลือใช้ ก่อนเขียนลิสต์ไปซื้ออาหารแต่สัปดาห์คุณจะรู้ว่ามีวัตถุดิบอะไรเหลืออยู่บ้าง การนำวัตถุดิบเหลือใช้เหล่านี้มาทำน้ำซุป สตูร์ ตุ๋น หรือเมนูยืดอายุอาหารชนิดอื่นๆ วิธีนี้ช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้มากทีเดียว อาหารเหล่านี้สามารถอุ่นเก็บไว้ได้นานหลายสัปดาห์
ดังนั้นคุณควรเซฟเงินจากวัตถุดิบเหลือใช้ประจำสัปดาห์โดยทำเป็นซุปหรือสตูร์แล้วนำมาอุ่นกินร่วมกับอาหารชนิดอื่นๆ ได้อีกหลายวัน
เคล็ดลับที่ 6
ควรทำขนมขบเคี้ยวหรือขนมกินเล่นด้วยตัวเอง นอกจากจะทำให้คุณประหยัดเงินได้แล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงจากโรคภัยไข้เจ็บได้เพราะขนมขบเคี้ยวหลายชนิดชอบใส่สารกันบูด สารคงรสชาติ หรือวิธีต่างๆ ในการยืดอายุและรสชาติของขนมขบเคี้ยวเหล่านั้น
เคล็ดลับที่ 7
หาทางแช่แข็งวัตถุดิบหรืออาหารนอกฤดูผลผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักผลไม้ซูเปอร์ฟู๊ด คุณสามารถหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แพ็คใส่ถุงอาหารแล้วนำไปแช่งแข็งในช่องฟรีซตู้เย็น หรือจะปั่นเป็นสมูทตี้สำเร็จรูปแล้วเทใส่ขวดปิดฝาให้แน่นจากนั้นก็นำไปแช่แข็ง
เคล็ดลับที่ 8
ทำเครื่องหมายหน้าลิสต์สินค้าของคุณเพื่อแสดงว่าวัตถุดิบนี้คุณใช้บ่อยและมันไม่เน่าเสียง่าย นั่นคือคุณสามารถซื้อมาเก็บกักตุนเผื่อขาดเผื่อเหลือได้ ตัวอย่างเช่น ข้าวโอ๊ตสำเร็จรูป ข้าวเพื่อสุขภาพ วิธีนี้จะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้หากว่าวัตถุดิบเหล่านี้หมดก่อนสัปดาห์
เคล็ดลับที่ 9
ค้นหาเมนูอาหารเพื่อสุขภาพจากกูเกิลหรือยูทูป บนโลกออนไลน์มีข้อมูลดีๆ และฟรีอยู่มากมายโดยเฉพาะคลิปในช่องยูทูปหลายช่องนั้นมีอาหารเด็ดที่ทำตามได้ง่าย รสชาติดี ราคาถูก และตอบสนองต่อคนรักสุขภาพเป็นอย่างดี
เคล็ดลับที่ 10
ซื้อสินค้าลดราคามาตุนไว้ ซูเปอร์มาร์เก็ตหรือห้างขายของสดจะเปลี่ยนสต็อคสินค้าใหม่เกือบทุกวัน ทั้งเนื้อสัตว์ ผักผลไม้ และวัตถุดิบอาหารต่างๆ
การซื้อสินค้าลดราคาหรือสินค้าโปรโมชั่นนี้จะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าของคุณอย่างแน่นอน หากเป็นสินค้าที่เน่าเสียง่ายก็รีบแช่ช่องฟรีซของตู้เย็นทันทีหรือใช้เทคนิคการยืดอาหารก็ได้ ตัวอย่างหากเป็นเนื้อสัตว์ก็ยืดอายุโดยการทำเป็นเนื้อแดดเดียว ตุ๋นหรือสตูร์ ส่วนผักก็ทำเป็นผักดอง หรือนำผักผลไม้ปั่นเป็นสมูทตี้แล้วเทใส่ขวดเก็บไว้ในตู้เย็น
เคล็ดลับทั้ง 10 ข้อนี้ เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยเซฟเงินกระเป๋าคุณสำหรับการกินอาหารเพื่อสุขภาพ คุณสามารถเลือกซื้อวัตถุดิบหรืออาหารได้อย่างชาญฉลาดคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ สำหรับข้อดีของอาหารเพื่อสุขภาพนั้นคือมันช่วยลดความเสี่ยงจากโรคร้ายแรงทำให้คุณประหยัดทั้งเงินและเวลาไปหาหมอ เคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณแข็งแรงทั้งในเรื่องสุขภาพและด้านการเงิน